3 ประเด็นหลักที่ขัดขวางเส้นทางแชมป์ยุโรปของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

3 ประเด็นหลักที่ขัดขวางเส้นทางแชมป์ยุโรปของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ความผิดหวังในฟุตบอลถ้วยยุโรป “ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก” วนกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่ากับยอดทีมเมืองน้ำหอม “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” ถึงแม้การมาของลีโอเนล เมสซี่นักเตะหมายเลข 1 ของโลก ที่สร้างความฮือครั้งใหญ่ระดับโลก ผสมผสานกับนักเตะคุณภาพมากมาย ที่เลือกเทต้นสังกัดเก่าฟรีเอเย่นต์ตบเท้าเดินไร่เรียง สู่เมืองปารีสกันยกใหญ่ ที่เรียกได้ว่าทีมรวมดาราก็เป็นได้ แต่ผลงานในถ้วยยุโรปเป้าหมายอันดับ 1 ของสโมสร กลับมีผลงานที่สวนทางเดินไม่อยู่ในร่องในรอย ตกรอบกันแบบไม่เกรงใจคุณภาพนักเตะภายในทีมกันเลย

ผ่านไป 10 ปี ที่เปแอชเช เริ่มมีชื่อเสียงที่น่าจับตามอง ว่าเป็นอีกทีมที่มีชื่อเข้ามาร่วมลุ้นแชมป์อย่างน่าสนุก แต่เมื่อผ่านรอบแรกไปได้กลับเป็นทีมประดับ ที่ทำผลง่นได้อย่างไร้เคี้ยวคม มีความผิดพลาดเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ที่แพ้แบบไม่น่าแพ้ก็มีให้เห็นในหลายครั้ง ทั้งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมมหาเศรษฐีของโลก และเต็มไปด้วยนักเตะชั้นแนวหน้ามากมาย วันนี้เราเลยมาเจาะประเด็นกันว่า เหตุใดปารีส แซงต์ แชร์กแมง ถึงไปไม่ถึงฝั่งฝันกับถ้วยแชมป์สักครั้ง

3 ประเด็นหลักที่ขัดขวางเส้นทางแชมป์ยุโรปของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

  1. ไม่มีสไตล์การเล่นที่มีเอกลักษณ์ของทีม

การมีเอกลักษณ์ในลวดลายการเล่นฟุตบอล คืออีกหนึ่งสเน่ห์ของหน้าตาสโมสร ที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้เป็นอย่างดี การเล่นฟุตบอล การแก้เกม และการบริหารจัดการทีม ที่ต้องมีปรัชญาของตัวเองอย่างเด่นชัด จะเห็นได้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีสไตล์การเล่นไม่ยอมแพ้เมื่อเสียงนกหวีดยังไม่ดันขึ้น ความเป็นตัวเองอย่างชัดเจนที่สุด ในยุคของเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน   ลิเวอร์พูลภายใต้การทำทีมของคร็อปที่ก้าวขึ้นมาไกลเรื่อย ๆ จนถึงแชมป์กับการซื้อนักเตะที่ตรงกับการทำทีม โดยไม่สนนักเตะชื่อดัง บาร์เซโลน่าเองกับสไตล์การเคาะบอล ผ่านบอลที่งดงาม และเชลซีที่มีเกมรับมาตรฐานอย่างเหนียวแน่น รับมือได้อย่างดี ซึ่งล้วนแต่เป็นปรัชชาที่เด่นชัด สร้างพื้นฐานมาตรฐานของทีมได้อย่างโดดเด่น ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวภายในสนาม

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันยังสะท้อนลงไปถึงเบื้องลึกได้เป็นอย่างดี ทั้งการซื้อนักเตะเข้ามา การสรรหาโค้ชเข้ามาทำทีม ให้เหมาะกับงานนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เอแอชเชเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปแล้วถึง 4 ราย ทั้งคาร์โล อันเชล็อตติ ,โลร็องต์ บล็องก์ ,อูไน เอเมรี่ ,โธมัส ทูเคิล และคนปัจจุบันเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โค้ชเหล่านี้ล้วนมีฝีมือในแบบของตัวเอง แต่จะเห็นได้ชัดเลยว่า ไม่สามารถหาจุดเชื่อมโยงในแผนการทำทีมได้เลย แต่ละคนมีลักษณะฟุตบอลที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้จุดนี้เป็นส่วนสำคัญอย่างมาก ที่ไร้การเชื่อมต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง

  1. การเสริมทัพที่เน้นซุปเปอร์สตาร์พร้อมใช้งาน

3 ประเด็นหลักที่ขัดขวางเส้นทางแชมป์ยุโรปของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

เปแอชเชขึ้นชื่อเป็นอย่างดีของสโมสรที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ไลฟ์สไตล์การช็อปปิ้ง เลือกหานักเตะเข้าสโมสรเป็นอย่างไร การมาของนักเตะแนวหน้าของทีมล้วนไม่ธรรมดาแทบทั้งสิ้น ทั้งการมาของเนร์มากองหน้าที่แพงที่สุดในโลก การมาของดาวรุ่งที่แพงที่สุดของนักเตะฝรั่งเศสทั้งหมดที่เคยมีมา และการมาของลีโอเนล เมสซี่กับค่าเหนื่อยที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งยังไม่รวมกับนักเตะทั้งหลาย ที่ต่างมีชื่อเสียงมารวมกันที่ปารีสนี้ บ้างก็มาเล่น บ้างก็มาดับ นี่คือความล้มเหลวอีกอย่างที่สโมสรแห่งนี้กำลังเผชิญ  คือการต้องการนักเตะที่มีเชียงเสียงเข้าสู่ทีม แต่กลับขาดผู้เล่นที่ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ เล่นแบบสวมวิญญาณ สู้จนนาทีสุดท้ายก็หาไม่ได้ และหากมองถึงขุมกำลังแห่งอนาคต ที่เป็นดาวรุ่งปั้นขึ้นมาใช้งาน ไม่ต้องพูดถึงอีกเลย

  1. มาตรฐานที่ต่ำเกินไปของลีกเอิง

3 ประเด็นหลักที่ขัดขวางเส้นทางแชมป์ยุโรปของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

การแข่งขันภายในลีก สิ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งแวดล้อมปัจจัยสำคัญที่ส่งผลถึงความแข็งแกร่งของทีมเป็นอย่างมาก เปรียบเสมือนจุดการพัฒนาทีมที่ให้ผลลัพธ์อย่างชัดเจน เป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงความแข็งแกร่ง การแก้เกม อุปสรรคของฟุตบอลที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ที่ผู้จัดการทีมได้มีโอกาสแก้ไข ปรับปรุงต่อไป และเป็นสิ่งที่ทำให้นักเตะได้เรียนรู้ความกดดันได้อย่างชัดเจน นักเตะคนไหนมีการเล่นอย่างใดสามารถทดลอง หมุนเวียนเปลี่ยนกันได้ แต่ลีกเอิงฝรั่งเศสนั้น มีทีมร่วมลีกที่คุณภาพค่อนข้างห่างชั้นกันอย่างมาก จึงทำให้ความเข้าข้น ของการแข่งขันภายในลีกนั้น ยังดีไม่พอ

รู้หรือไม่ ในฤดูกาลล่าสุด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่สามารถรักษาแชมป์ลีกเอิงได้

รู้หรือไม่ ในฤดูกาลล่าสุด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่สามารถรักษาแชมป์ลีกเอิงได้

ซึ่งฟังดูแล้วอาจดูจะแปลกไปหน่อย ที่การแข่งขันภายในลีกก็ต้องมีแชมป์บ้าง ไร้แชมป์บ้าง แต่เดี๋ยวก่อนทีมที่ผงาดความแชมป์ลีกเองได้นั้น กลับเป็นทีมที่ฤดูกาล 2017-2018 เกือบจะต้องตกชั้นไป ที่ยังสามารถเร่งทำผลงานจบที่อันดับ 17 ได้ และทีมอย่างลีลล์นั้น ไม่มีดาวดังเลยแม้แต่คนเดียว แต่หากเทียบกับเจ้าบุญทุ่มแดนปารีสแล้วหล่ะก็ ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรหมด ที่เต็มไปด้วยนักเตะดีกรีทีมชาติ ชั้นแนวหน้าของโลก ที่แต่ละคนนั้น มีค่าเหนื่อยมหาศาล เพียงนำเอาค่าเหนื่อยของเมสซี่ และเนมาร์ เพียงสองคนก็สามารถตอบแทนนักเตะของลีลล์ได้ทั้งทีมแล้ว

REF :